฿2,890.00
รายละเอียด
รหัสสินค้า PSY018-KB
จิ๋มก้นจำลองนางแบบเกาหลี3D
ราคา : 2,890 ฿
รายละเอียด :
A.กระบอกช่วยชักอัติโนมัติอีเล็คโทรนิก 2,890 บาท
B.ช่องคลอดจำลองนางแบบเกาหลี 2,990 บาท
ช่องคลอดรุ่นนี้เป็นการจำลองช่องคลอดของนางแบบเกาหลีมาให้กับคุณลูกค้าเลย โดยด้านในมีการจำลองรอยหยัก ปุ่มการขมิบต่างๆให้ได้มาอย่างสมจริงเหมือนกับการใช้ช่องคลอดจริงเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้สองทาง ด้วยการผลิตด้วยซิลิโคนแบบพิเศษที่ใช้ผลิตน้องตุ๊กตายางตัวครึ่งแสน ลูกค้าสามารถเป็นเข้าของได้ด้วยราคาเพียง 2,990 บาท
C.ก้นนางแบบเกาหลีรุ่นนี้ ขนาด 35 x 40 x 23 นิ้ว ราคา 9,900 บาท
รุ่นนี้เป็นการจำลองก้นของนางแบบเกาหลีในท่ากวางคว่ำ จุดเด่นของรุ่นนี้คือเนื้อซิลิโคนที่นิ่มนวลมาก (ตามวีดีโอคลิป) และอีหนึ่งจุดเด่นคือเรื่องของลักษณะการจำลองกลีบช่องคลอดที่เหมือนกับของจริงมาก เป็นกลีบแคมร่องที่เหมือนกับของจริงที่สุดตังแต่มีการจำลองมากทั้งรูก้นด้วย และยังมีให้เลือกสองรุ่นสองแบบ โดยมีแบบที่สามารถขยับขมิบได้อีกด้วย บริษัทนี้เป็นบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตายางระดับเกรดเอ
D.ก้นแบบขมิบ ช่องคลอดอุ่นได้ สั่นได้ ได้ ราคา 12,900 บาท
ในบรรดาดราม่าในโลกอินเตอร์เน็ตก่อนหน้าที่ผ่านมา หน่วยงานที่ดูเหมือนจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวเน็ตก็เห็นจะเป็น “กระทรวงวัฒนธรรมตุ๊กตายาง” ที่ปัจจุบันมีผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางด้านวัฒนธรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงหัวข้อการทำให้ “เซ็กส์ทอย” เป็นสิ่งที่ถูกตามกฎหมายในประเทศไทยตุ๊กตายางโดยบอกว่า ในวัฒนธรรมไทย การมีความสุขทางเพศเกิดเรื่องที่จำต้องปกปิด แล้วก็แนวทางการทำให้เซ็กส์ทอยถูกตามกฎหมาย ก็ควรจะมีการวิจัยการันตีว่าจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบด้านสังคม แม้กระนั้นหัวข้อที่สะกิดต่อมชาวเน็ต กระทั่งจำเป็นต้องกล่าวถึงมาจู่โจมผู้พูดอย่างเผ็ดร้อนก็คือประโยคที่ว่า “ความรู้สึกทางเพศนั้นสามารถใคร่ครวญได้โดยทำกิจกรรมอื่นๆดังเช่นว่า การนั่งสมาธิ เล่นกีฬา” แปลงเป็นดราม่าครั้งใหญ่อีกที กระทั่งท้ายที่สุดกระแสคืนกลับ สำนักข่าวถูกจู่โจมจากการเปิดเผยแพร่รายละเอียดที่สร้างความย่ำแย่ต่อศูนย์ข่าว จะต้องปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดในกราฟิก พร้อมออกคำอธิบายขออภัยสุดท้าย
แต่สิ่งที่คนแก่ท่านนี้ให้สัมภาษณ์ก็สะท้อนถึงหลายหลักสำคัญที่เกี่ยวพันกับมุมมองที่มีต่อเรื่องเพศในสังคมไทย ซึ่งคงจะเอามาขบคิดกันต่อ โดยยิ่งไปกว่านั้นหลักสำคัญที่ว่า ที่จริงแล้ว “เซ็กส์ทอย” เป็น “อสุรกาย” ที่ทำลายจริยธรรมอันดีเลิศใช่หรือ
เพราะเหตุไรเซ็กส์ทอยก็เลยเป็นของผิดกฎหมาย
หลักสำคัญแรกๆที่ถูกกล่าวถึงมาสกัดดาวรุ่งเซ็กส์ทอยก็คือเรื่องข้อบังคับ ซึ่งในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 บอกว่า คนที่มีวัตถุจัญไร ตุ๊กตายาง ซึ่งเป็นวัตถุที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้คนกำเนิดความรู้สึกทางกามารมณ์ และก็เอามาขายในที่ส่วนรวมโดยมีจุดหมายด้านการค้า หรือทำให้แพร่หลาย จะนับว่ามีความผิด จะต้องระวางโทษติดคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรืออีกทั้งจำทั้งยังปรับ ซึ่งพูดได้ว่า ข้อบังคับรองรับว่าห้ามมีวัตถุลามกจกเปรตไว้เพื่อจัดจำหน่าย แล้วก็เซ็กส์ทอยตุ๊กตายางก็นับได้ว่าเป็นวัตถุจัญไร
“ข้อผิดพลาดในหมวดนี้เป็นมาตรฐานทางด้านศีลธรรม ของตุ๊กตายางซิลิโคนเพราะเมืองไทยพวกเราแต่ก่อนมีความรู้สึกว่าการนำวัตถุจัญไรมาจัดจำหน่าย มันก็พอๆกับว่าเป็นสิ่งที่ผิดจำต้อง ไม่ควรในทางคุณธรรม คล้ายกับเรื่องเพศเกิดเรื่องที่จะต้องปกปิด ไม่เหมาะในการที่จะนำเอามาเผย หากมีอันนี้เกิดมาแล้ว มันจะก่อให้มาตรฐานทางด้านศีลธรรมเสื่อม แม้กระนั้นอีกมุมก็คือ ถ้าหากสิ่งจัญไรเหล่านี้มีมากมาย มันก็จะมีการเร่งเร้าให้ผู้ที่มีไว้ในครอบครองกำเนิดมีอารมณ์รวมทั้งไปใช้ความรุนแรงทางเพศเพศหญิงหรือเด็กอื่นๆเขาก็เลยพูดว่า ทำตามนี้แล้วกัน มีจุดกึ่งกลางเรื่องความเป็นส่วนตัว จะซื้อมาเก็บ จะมองเอง จะแบ่งให้เฉพาะเพื่อนพ้องแบบไม่เป็นสาธารณะ หรือเปล่ากระจัดกระจายไปทั่ว ข้อบังคับไม่เอาโทษ แม้กระนั้นหากเกิดเรื่องเอามาจ่ายแจก เอามาโพสต์ในเว็บ ก็ผิดตามมาตรา 287” ศาสตราจารย์ณรงค์ จิตใจหาญ คุณครูประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงรายละเอียดทางด้านกฎหมายของเซ็กส์ทอย ซึ่งต่างจากในต่างชาติ ที่มีการอนุญาตให้ผู้ที่อายุไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 18 ปี ซื้อเซ็กส์ทอยได้ ในช่วงเวลาที่ข้อบังคับเมืองไทยห้ามจัดจำหน่ายเซ็กส์ทอยในทุกกรณี
ความปรารถนาทางเพศแก้ได้ด้วยการเตะบอลใช่หรือไม่หรืออาจจะใช่ก็ได้นะไม่มีใครบอกได้
การระงับอารมณ์ทางเพศด้วยการเตะบอลนับว่าเป็นมุกระดับคลาสสิกในโลกอินเตอร์เน็ต และก็ถูกนำกลับมาใช้อีกรอบสำหรับการให้สัมภาษณ์ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางด้านวัฒนธรรม รวมทั้งยิ่งโหมแพร่ดราม่าเกี่ยวกับน้องตุ๊กตายางเพศชาย ให้ยิ่งนักมากกว่าเดิม เพราะว่าเป็นการขจัดปัญหาที่ไม่ถูกจุดรวมทั้งแทบไม่มีทางเป็นไปได้ โดยหัวข้อนี้ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านชีววิทยา อย่าง ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คุณครูประจำสาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย มีความคิดเห็นว่า การผลิตฮอร์โมนรวมทั้งมีความต้องการทางเพศเกิดเรื่องธรรมชาติ และไม่ใช่เรื่องที่ไม่ถูก
https://www.dailynews.co.th/sports/775505/
“การเกิดความรู้สึกทางเพศไม่ใช่อาการโรค ไม่ราวกับความดันที่ขึ้นสูงแล้วลงยาก มันคือเรื่องของระดับฮอร์โมนภายในร่างกายซึ่งแต่ละคนแตกต่าง ด้วยเหตุนี้ระดับของฮอร์โมนมันขึ้นลงได้เอง หากธรรมดาพวกเรามีความต้องการทางเพศ แล้วร่วมเพศถัดไป มันก็เป็นไปในแนวทางหนึ่ง ถ้าเกิดมิได้มีเซ็กส์ มันก็จะต่ำลงเอง หรือเบี่ยงเบนความพึงพอใจโดยการนั่งสมาธิ ฟังเพลง ดูหนัง มันก็ลดน้อยลงได้ ถ้าหากเล่นกีฬาก็จะเป็นไปในลักษณะการใช้ฮอร์โมนภายในร่างกายเพื่อทำกิจกรรมอันอื่น มันก็ลดระดับฮอร์โมนลงได้ด้วยเหมือนกัน มันสุดแต่คน”
“ดราม่าเซ็กส์ทอยตุ๊กตายาง” สะท้อนอะไรบ้างที่อยู่ในสังคมไทย
นอกเหนือจากการจู่โจมในหัวข้อการระงับอารมณ์ทางเพศด้วยการเล่นกีฬาหรือนั่งสมาธิแล้ว ดราม่าเซ็กส์ทอยยังส่งผลให้เกิดการตั้งข้อซักถามเกี่ยวกับทัศนคติเรื่องเพศในสังคมไทยด้วย โดย ดร.อันธิฌา แสงสว่างชัย คุณครูประจำแผนกมนุษยศาสตร์แล้วก็สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมทั้งผู้อำนวยการห้องเรียนเพศวิถีแล้วก็สิทธิมนุษยชน ร้านจำหน่ายหนังสือบูคู บอกว่า เซ็กส์ทอยเป็นข้าวของที่ปฏิบัติภารกิจสนองตอบกิจกรรมทางเพศ รวมทั้งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของวัฒนธรรมทางเพศ แต่ทว่าดราม่าที่เกิดขึ้นกลับมิได้เกี่ยวพันกับเซ็กส์ทอยแค่นั้น แต่ว่าเกี่ยวกับมุมมองเรื่องเพศ ซึ่งถูกปลูกฝังมาจากการผลิตความเป็นเมืองชาติที่ระบุหน้าที่ของเพศชายรวมทั้งหญิง รวมถึงกิจกรรมทางเพศ ที่เป็นไปเพื่อการผลิตสังคมของเมือง
“มันเป็นมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเพศในสังคมไทย ซึ่งมันก็มาจากชนชั้นนำที่บากบั่นระบุแล้วก็ทำเช่นไรให้มองเท่ากับต่างประเทศ ซึ่งสมัยซึ่งก็คือตะวันตกที่วัฒนธรรมทางเพศก็ยังได้รับอิทธิพลจากศาสนาคริสต์ โดยเหตุนั้นมันก็มีการควบคุมเรื่องเพศ เป็นเซ็กซ์เป็นไปเพื่อการมีลูกไว้สืบสายเลือด มิได้ร่วมเพศในทางของความสำราญ ความชอบใจ หรือพลานามัย เป็นเซ็กซ์เพื่อการผลิตครอบครัว รวมทั้งครอบครัวก็เป็นหลักฐานของสังคม เมืองไทยก็ไปรับเอาวัฒนธรรมทางเพศอย่างงี้เข้ามา และจากนั้นก็ปลูกฝังอย่างแน่นแฟ้นในระบบการศึกษาเล่าเรียน ระบบสังคมรวมทั้งศาสนา เอาคุณธรรมมารองรับอะไรต่างๆล้นหลาม สุดท้ายก็ไปปรากฏในระบบข้อบังคับว่าเซ็กส์ทอยเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย”
ด้วยเหตุนั้น ใดๆที่เกี่ยวเนื่องกับความรู้สึกทางเพศจะเกิดเรื่องต่ำ จำเป็นต้องปิดหลบซ่อน จะต้องไม่เอ่ยถึง เนื่องจากถ้าเกิดบอกแล้วจะแปลงเป็นคนหื่น ไม่มีจริยธรรม ทำให้เซ็กส์ทอยซึ่งมิได้มีฟังก์ชันอะไรอันอื่น นอกเหนือจากการให้ความต้องการทางเพศ ยิ่งถูกวินิจฉัยไปในแง่ลบ ในเวลาที่ถุงยางยังได้รับการยินยอมรับมากยิ่งกว่า ทั้งๆที่มันเป็นวัสดุอุปกรณ์ในเชิงเซ็กซ์ แม้กระนั้นถูกนำไปเอ๋ยถึงเรื่องสุขภาพ การปกป้องโรค การคุมกำเนิด มันก็เลยทำให้ถุงยางสามารถมีพื้นที่สำหรับในการเอ่ยถึงมากยิ่งกว่า เพียงพอฐานรากมุมมองทางเพศเป็นอย่างงี้ เซ็กส์ทอยเลยแปลงเป็นภูติผีปีศาจ ที่พวกเราจำเป็นต้องรีบไล่ เนื่องจากว่าทำให้จริยธรรมอันดีเสียหาย ทำให้สังคมวุ่นวายเนื่องจากคนสามารถเป็นสุขทางเพศได้อย่างเสรี มันเป็นความกลัว”
นอกเหนือจากนี้ ดร.อันธิฌายังเห็นว่า ความกลัวในเรื่องเพศทำให้คนประเทศไทยรู้เรื่องเรื่องความรู้สึกทางเพศน้อยมาก เพราะว่าไม่มีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหัวข้อนี้ นอกนั้น ผู้ที่มีพื้นที่สำหรับในการบอกหรือทดสอบเรื่องเพศกลับกลายเพศชาย รวมถึงแนวความคิดที่ว่าเพศชายควบคุมควาพึงพอใจทางเพศมิได้ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดแนวความคิดเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเราที่ว่า เพศหญิงแต่งตัวโป๊หรือท่องเที่ยวช่วงกลางคืน แล้วโดนขืนใจคือเรื่องปกติ เพราะว่าเพศชายควบคุมสติทางเพศมิได้ หญิงเลยต้องระวังเอาเอง ในขณะที่อันที่จริง ทั้งยังเพศชายรวมทั้งเพศหญิงสามารถคุมอารมณ์ทางเพศของตนได้เช่นเดียวกัน
ในบรรดาดราม่าในโลกอินเตอร์เน็ตก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา หน่วยงานที่ดูเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวเน็ตก็เห็นจะเป็น “กระทรวงวัฒนธรรมตุ๊กตายาง” ที่ปัจจุบันมีผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังด้านวัฒนธรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงหัวข้อการทำให้ “เซ็กส์ทอย” เป็นสิ่งที่ถูกตามกฎหมายในประเทศไทยตุ๊กตายางโดยบอกว่า ในวัฒนธรรมไทย การมีความสุขทางเพศเกิดเรื่องที่จำเป็นต้องปกปิด และก็กระบวนการทำให้เซ็กส์ทอยถูกต้องตามกฎหมาย ก็ควรจะมีงานศึกษาวิจัยยืนยันว่าจะไม่มีผลเสียด้านสังคม แม้กระนั้นหลักสำคัญที่สะกิดต่อมชาวเน็ต จนกระทั่งจะต้องกล่าวถึงมาจู่โจมผู้พูดอย่างเผ็ดร้อนก็คือประโยคที่ว่า “ความยินดีในกามนั้นสามารถใคร่ครวญได้โดยทำกิจกรรมอื่นๆอาทิเช่น การนั่งสมาธิ เล่นกีฬา” แปลงเป็นดราม่าครั้งใหญ่อีกที กระทั่งในที่สุดกระแสคืนกลับ สำนักข่าวถูกจู่โจมจากการเปิดเผยแพร่รายละเอียดที่ทำความเสียหายต่อที่มาของข่าว จะต้องปรับแก้รายละเอียดในกราฟิก พร้อมออกถ้อยแถลงขออภัยสุดท้าย
แม้กระนั้น สิ่งที่คนแก่ท่านนี้ให้สัมภาษณ์ก็สะท้อนถึงหลายหัวข้อที่เกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อเรื่องเพศในสังคมไทย ซึ่งคงจะเอามาขบคิดกันต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวข้อที่ว่า ในความเป็นจริงแล้ว “เซ็กส์ทอย” เป็น “ภูติผี” ที่ทำลายจริยธรรมอันดีเลิศใช่หรือ
เพราะเหตุใดเซ็กส์ทอยก็เลยเป็นของผิดกฎหมาย
ข้อความสำคัญแรกๆที่ถูกเสนอมาสกัดดาวรุ่งเซ็กส์ทอยก็คือเรื่องข้อบังคับ ซึ่งในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 บอกว่า คนที่มีวัตถุจัญไร ตุ๊กตายาง ซึ่งเป็นวัตถุที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้คนกำเนิดความรู้สึกทางกามารมณ์ แล้วก็เอามาจัดจำหน่ายในที่ส่วนรวมโดยมีจุดมุ่งหมายเชิงพาณิชย์ หรือทำให้แพร่หลาย จะนับว่ามีความผิด จำต้องระวางโทษติดตะรางไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งยังจำอีกทั้งปรับ นั่นถือว่า ข้อบังคับรองรับว่าห้ามมีวัตถุลามกจกเปรตไว้เพื่อจัดจำหน่าย แล้วก็เซ็กส์ทอยตุ๊กตายางก็นับได้ว่าเป็นวัตถุจัญไร
“ความผิดพลาดในหมวดนี้เป็นมาตรฐานทางด้านศีลธรรม ของตุ๊กตายางซิลิโคนเนื่องจากว่าเมืองไทยพวกเราสมัยเก่าคิดว่าการนำวัตถุลามกจกเปรตมาจัดจำหน่าย มันก็พอๆกับว่าเป็นสิ่งที่ผิดจะต้อง ไม่ควรในทางจริยธรรม คล้ายกับเรื่องเพศเกิดเรื่องที่จำต้องปกปิด ไม่เหมาะที่จะนำเอามาเผย ถ้าหากมีอันนี้เกิดมาแล้ว มันจะก่อให้มาตรฐานทางด้านศีลธรรมเสื่อม แต่ว่าอีกมุมก็คือ ถ้าเกิดสิ่งลามกจกเปรตเหล่านี้มีเยอะแยะ มันก็จะมีการเร่งเร้าให้ผู้ที่มีไว้ในครอบครองกำเนิดมีอารมณ์แล้วหลังจากนั้นก็ไปก่ออาชญากรรมทางเพศสตรีหรือเด็กอื่นๆเขาก็เลยพูดว่า เลียนแบบนี้แล้วกัน มีจุดกึ่งกลางเรื่องความเป็นส่วนตัว จะซื้อมาเก็บ จะมองเอง จะแบ่งให้เฉพาะเพื่อนพ้องแบบไม่เป็นสาธารณะ หรือเปล่ากระจัดกระจายไปทั่ว ข้อบังคับไม่เอาโทษ แต่ว่าหากเกิดเรื่องเอามาแบ่ง เอามาโพสต์ในเว็บ ก็ผิดตามมาตรา 287” ศาสตราจารย์ณรงค์ หัวใจหาญ คุณครูประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงรายละเอียดทางด้านกฎหมายของเซ็กส์ทอย ซึ่งต่างจากในต่างแดน ที่มีการอนุญาตให้ผู้ที่อายุไม่ต่ำยิ่งกว่า 18 ปี ซื้อเซ็กส์ทอยได้ ในตอนที่ข้อบังคับเมืองไทยห้ามจัดจำหน่ายเซ็กส์ทอยในทุกกรณี
ความต้องการทางเพศแก้ได้ด้วยการเตะบอลใช่หรือ
การระงับอารมณ์ทางเพศด้วยการเตะบอลนับว่าเป็นมุกระดับคลาสสิกในโลกอินเตอร์เน็ต แล้วก็ถูกนำกลับมาใช้อีกรอบสำหรับการให้สัมภาษณ์ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางด้านวัฒนธรรม แล้วก็ยิ่งโหมแพร่ดราม่าเกี่ยวกับน้องตุ๊กตายางเพศชาย ให้นักหนามากกว่าเดิม เนื่องจากเป็นการขจัดปัญหาที่ไม่ถูกจุดรวมทั้งเกือบจะไม่มีทางเป็นไปได้ โดยประเด็นนี้ ผู้ชำนาญทางชีววิทยา อย่าง ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คุณครูประจำสาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย มีความเห็นว่า การผลิตฮอร์โมนแล้วก็มีความรู้สึกทางเพศเกิดเรื่องธรรมชาติ และไม่ใช่เรื่องที่ไม่ถูก
“การเกิดความต้องการทางเพศไม่ใช่ลักษณะของโรค ไม่ราวกับความดันที่ขึ้นสูงแล้วลงยาก มันคือเรื่องของระดับฮอร์โมนภายในร่างกายซึ่งแต่ละคนแตกต่าง ด้วยเหตุนี้ระดับของฮอร์โมนมันขึ้นลงได้เอง ถ้าเกิดธรรมดาพวกเรามีความต้องการทางเพศ แล้วร่วมเพศถัดไป มันก็เป็นไปในแนวทางหนึ่ง ถ้าเกิดมิได้มีเซ็กส์ มันก็จะน้อยลงเอง หรือเบี่ยงเบนความพึงพอใจโดยการนั่งสมาธิ ฟังเพลง ดูหนัง มันก็น้อยลงได้ ถ้าหากเล่นกีฬาก็จะเป็นไปในลักษณะการใช้ฮอร์โมนภายในร่างกายเพื่อทำกิจกรรมอันอื่น มันก็ลดระดับฮอร์โมนลงได้เหมือนกัน มันสุดแต่คน”
“ดราม่าเซ็กส์ทอยตุ๊กตายาง” สะท้อนอะไรบ้างในสังคมไทย
นอกเหนือจากการจู่โจมในหัวข้อการระงับอารมณ์ทางเพศด้วยการเล่นกีฬาหรือนั่งสมาธิแล้ว ดราม่าเซ็กส์ทอยยังนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการตั้งปัญหาเกี่ยวกับทัศนคติเรื่องเพศในสังคมไทยด้วย โดย ดร.อันธิฌา แสงสว่างชัย คุณครูประจำภาควิชามนุษยศาสตร์รวมทั้งสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมทั้งผู้อำนวยการห้องเรียนเพศวิถีแล้วก็สิทธิมนุษยชน ร้านจำหน่ายหนังสือบูคู กล่าวว่า เซ็กส์ทอยเป็นข้าวของที่ปฏิบัติหน้าที่สนองตอบกิจกรรมทางเพศ รวมทั้งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของวัฒนธรรมทางเพศ แต่ทว่าดราม่าที่เกิดขึ้นกลับมิได้เกี่ยวเนื่องกับเซ็กส์ทอยเพียงแค่นั้น แต่ว่าเกี่ยวกับมุมมองเรื่องเพศ ซึ่งถูกปลูกฝังมาจากการผลิตความเป็นเมืองชาติที่ระบุหน้าที่ของเพศชายรวมทั้งสตรี รวมถึงกิจกรรมทางเพศ ที่เป็นไปเพื่อการผลิตสังคมของเมือง
“มันเป็นมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเพศในสังคมไทย ซึ่งมันก็มาจากชนชั้นนำที่อุตสาหะระบุรวมทั้งทำยังไงให้มองเสมอกับฝรั่ง ซึ่งสมัยซึ่งก็คือตะวันตกที่วัฒนธรรมทางเพศก็ยังได้รับอิทธิพลจากศาสนาคริสต์ โดยเหตุนี้มันก็มีการควบคุมเรื่องเพศ เป็นเซ็กซ์เป็นไปเพื่อการมีลูกไว้สืบสายเลือด มิได้ร่วมเพศในทางของความสบาย ความชอบใจ หรือพลานามัย เป็นเซ็กซ์เพื่อการผลิตครอบครัว และก็ครอบครัวก็เป็นหลักฐานของสังคม เมืองไทยก็ไปรับเอาวัฒนธรรมทางเพศอย่างนี้เข้ามา รวมทั้งปลูกฝังอย่างแน่นแฟ้นในระบบการศึกษาเล่าเรียน ระบบสังคมแล้วก็ศาสนา เอาคุณธรรมมารองรับอะไรต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว สุดท้ายก็ไปปรากฏในระบบข้อบังคับว่าเซ็กส์ทอยเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย”
ด้วยเหตุนี้ ใดๆที่เกี่ยวโยงกับอารมณ์ทางเพศจะเกิดเรื่องต่ำ จำเป็นต้องปิดแอบซ่อน จะต้องไม่เอ่ยถึง เนื่องจากว่าหากบอกแล้วจะเปลี่ยนเป็นคนหื่น ไร้จริยธรรม ทำให้เซ็กส์ทอยซึ่งมิได้มีฟังก์ชันอะไรอันอื่น นอกเหนือจากการให้ความยินดีในกาม ยิ่งถูกวินิจฉัยไปในแง่ลบ ตอนที่ถุงยางยังได้รับการยินยอมรับมากยิ่งกว่า ในขณะที่มันเป็นเครื่องมือในเชิงเซ็กซ์ แม้กระนั้นถูกนำไปกล่าวถึงเรื่องสุขภาพ การคุ้มครองโรค การคุมกำเนิด มันก็เลยทำให้ถุงยางสามารถมีพื้นที่สำหรับการเอ่ยถึงมากยิ่งกว่า พอเพียงเบื้องต้นมุมมองทางเพศเป็นอย่างงี้ เซ็กส์ทอยเลยเปลี่ยนเป็นซาตาน ที่พวกเราจำต้องรีบขับไล่ไสส่ง เพราะเหตุว่าทำให้จริยธรรมอันดีเสียหาย ทำให้สังคมวุ่นวายเนื่องจากคนสามารถเป็นสุขทางเพศได้อย่างเสรี มันเป็นความกลัว”
https://board.postjung.com/1316480
ยิ่งไปกว่านี้ ดร.อันธิฌายังเห็นว่า ความกลัวในเรื่องเพศทำให้ชาวไทยรู้เรื่องเรื่องความต้องการทางเพศน้อยมาก เพราะเหตุว่าไม่มีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ อีกทั้ง ผู้ที่มีพื้นที่สำหรับในการบอกหรือทดสอบเรื่องเพศกลับกลายเพศชาย รวมถึงแนวความคิดที่ว่าเพศชายควบคุมความต้องการทางเพศมิได้ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดแนวความคิดเกี่ยวกับการกระทำชำเราที่ว่า สตรีแต่งตัวโป๊หรือท่องเที่ยวตอนกลางคืน แล้วโดนข่มขืนกระทำชำเราคือเรื่องปกติ ด้วยเหตุว่าเพศชายคุมอารมณ์ทางเพศมิได้ หญิงเลยต้องระวังเอาเอง ทั้งๆที่ตามความเป็นจริง อีกทั้งเพศชายรวมทั้งสตรีสามารถข่มอารมณ์ทางเพศของตนได้เช่นกัน
หมายเหตุ – เริ่มต้น ผมตั้งอกตั้งใจจะไม่ใช้เพจทางการของผมสำหรับในการแสดงความเห็นกรณียูเครน แต่ว่าใช้แอคเคานท์ส่วนตัวไปแสดงความเห็นตามเพจของสหายๆผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ปรากฎว่า มีการตัดเฉพาะบางท่อนไปเผยแพร่ทางทวิตเตอร์และก็เพจต่างๆทำเหมือนว่า ผมช่วยเหลือการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เพื่อไม่ให้กำเนิดความเข้าใจผิด ผมก็เลยใช้ทวิตเตอร์ตอบหลายใจความ แล้วก็ขอนำมาลงรวมกันตรงนี้อีกรอบ
ไม่มีที่ไหนเลยที่ผมพูดว่าเห็นด้วยกับการรุกรานหรือพูดว่าการรุกรานอำนาจอธิปไตยของยูเครนมีความยุติธรรม
คู่แฝด 7 คนแรกของโลกได้ฉลองวาระครบรอบ 21 ปีของพวกเขา ไปดูภาพกันเลย!
Kingdom Of Men
จุดยืนของผมมีดังนี้
1.ต้านทานการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ปูติเตียนนทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายระหว่างชาติ รัสเซียจำต้องเลิกการใช้กำลังทางด้านทหารรุกรานต่อยูเครน
2.ผมมีความเห็นมานานแล้วว่านาโต้ไม่มีคุณภาพสำหรับในการรักษาความยั่งยืนและมั่นคง รวมทั้งถูกประยุกต์ใช้เป็นวัสดุมหาอำนาจของตะวันตก กรณีวิกฤตยูเครนที่เรื้อรังมาเกือบจะสิบปี ก็คือบทพิสูจน์หนึ่งว่าหน่วยงานแบบนาโต้ไม่เวิร์คจริงๆ
3.ข้อความสำคัญเรื่องรัสเซีย ยูเครน ควรจะแยกใคร่ครวญแต่ละหลักสำคัญ พวกเราต้านการรุกรานของรัสเซีย ติเตียนปูว่ากล่าวนได้ แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเกื้อหนุนการมีอยู่ของหน่วยงานแบบนาโต้ แล้วก็ความประพฤติปฏิบัติของมหาอำนาจตะวันตก
ผมไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุใดประเด็นนี้จะต้องเลือกข้าง จนกระทั่งไปไกลถึงกับขนาดที่ว่าแม้พวกเราต้านการรุกรานของรัสเซีย แล้วต้องตามมาด้วยการสนับสนุนนาโต้ ผมมีความคิดเห็นว่าหน่วยงานแบบนาโต้มีปัญหาจริงๆและก็การกระทำของสหรัฐและก็ตะวันตกในอีดตก่อนหน้านี้ก็มีข้อวิพากษ์วิจารณ์จริงๆ
เมื่อวานนี้ Mariana Mazzucato นักวิชาการด้านเศรษฐวิทยาได้แชร์เห็นด้วยกับบทความของ Jeffry Sachs ที่เผยแพร่ใน FT ที่วิภาควิจารณ์หน้าที่ของ NATO แล้วก็อเมริกา ก็โดน “ทัวร์ลง” เป็นการใหญ่
ผมรู้ๆกันอยู่ว่า ด้วยเหตุการณ์ “แผลสด” ที่พึ่งพิงมองเห็นเบื้องหน้าจากการรุกรานของรัสเซีย ย่อมทำให้คนไม่ชอบใจ ไม่เห็นพ้อง แม้กระนั้นผมต้องการที่จะให้ไตร่ตรองอีกทั้งระบบ ตลอดสถานะการณ์ ตั้งแต่ปี 2014 ถึงหน้าที่ของมหาอำนาจตะวันตกแล้วก็ NATO ด้วยที่ทำให้เหตุการณ์ยูเครนแย่ลงกว่าเดิมมาขนาดนี้
ผมเห็นด้วยกับ Mélenchon แล้วก็พรรค La France insoumise ที่เสนอให้ประเทศฝรั่งเศสออกมาจากนาโต้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้านทานการรุกรานของรัสเซีย ปัจจุบันพึ่งคำชี้แจงตราหน้าไป
พวกเราจำเป็นต้องทยอยลดรวมทั้งเลิกหน้าที่นาโต้ สร้างแบบหน่วยงานความร่วมแรงร่วมใจใหม่ที่ค้นหาความสงบจริงๆไม่ใช่เป็นวัสดุของมหาอำนาจตะวันตก
4. ผมมีความคิดเห็นว่าการตำหนิดตามเหตุการณ์ที่มหาอำนาจสองขั้วทะเลาะกัน (ไม่ว่าจะตะวันตกกับรัสเซีย หรือ ตะวันตกกับจีน) ไม่อาจจะอ่านจากสื่อหรือบัณฑิตจากฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งได้เพียงอย่างเดียว ถ้าเกิดอ่านแต่ว่าสื่อข้างตะวันตกก็เป็นไปไม่ได้รู้เรื่องรัสเซีย จีน แม้อ่านแม้กระนั้นสื่อรัสเซีย อย่างเช่น RT สื่อจีน เป็นไปไม่ได้รู้เรื่องตะวันตก
ผมไม่มีทางเห็นด้วยกับการศึก การรุกราน แบบครอบครอง แบบจักรวรรดิ ที่พลเมืองไม่ได้อะไรนอกเหนือจากความตาย แบบที่รัสเซียทำปัจจุบันนี้
แต่ว่าพวกเราก็จะต้องไม่สวิงกลับไปพบอีกขั้วหนึ่งที่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ดีมากยิ่งไปกว่ากัน ผมไม่เชื่อว่าการเสาะหาความสงบทำเป็นโดยหน่วยงานแบบ NATO
เพราะเหตุว่าหน่วยงานแล้วก็ขั้นตอนการแบบที่ NATO ทำมาตลอด เป็นไปไม่ได้แก้ไขปัญหารัสเซียได้แน่นอนรอบนี้ก็เห็นกระจ่างๆว่าแก้มิได้
ทั้งปวงนี้หมายถึงจุดยืนรวมทั้งความคิดเห็นส่วนตัวของผม ไม่เกี่ยวอะไรกับหน่วยงานที่ผมขึ้นตรงต่อหากคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ Bella Dollsคุณอาจ เข้าใจผิดว่าเป็นบริการเพื่อนเที่ยว หน้านี้มีโปรไฟล์ของ”ผู้หญิง” แต่ละ คน แต่ละคนมีชื่อรูปถ่ายที่ไม่เหมาะสมและคำอธิบายเกี่ยวกับความชอบส่วนตัวของพวกเขา — เช่นเดียวกับป้ายราคาสำหรับเวลาที่จองด้วยกัน อย่างไรก็ตามผู้หญิง เหล่านี้ทำจากซิลิโคนและพวกเธอคือหัวใจสำคัญของการร่วมทุนทางธุรกิจใหม่ที่เสนอในแวนคูเวอร์ซึ่งทำให้เลิกคิ้ว — และมากกว่าสองสามข้อโต้แย้ง Bella Dolls ต้องการเป็นซ่องเซ็กซ์ดอลล์ แห่งแรก ใน แวนคูเวอร์ ยัง ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจแต่อ้างว่าได้รับการ สอบถามจำนวนมากจากผู้มีส่วนได้เสีย แนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ปัญหาเกี่ยวกับ สิทธิ สตรีและการเคลื่อนไหว #MeToo เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆและนักวิจารณ์บางคนเรียกร้อง ให้ ยกเลิกข้อเสนอนี้ โซเฟียฮลาดิกจาก Vancouver Rape Relief กล่าวว่า ” ความเต็มใจของผู้ชาย ที่จะสอดใส่วัตถุสะท้อนถึงความจริงที่ว่าผู้ชายหลาย คน มองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศในขณะที่ ทำให้ ทัศนคติแบบนี้เป็นปกติและถูกต้องตามกฎหมาย Ryan Fung ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของ Bella Dollsกล่าวว่าเขาไม่ต้องการโต้เถียงทางการเมืองเกี่ยวกับแนวคิดนี้ แต่กล่าวว่าบริษัทเชื่อว่ามีผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม “ฉันไม่สามารถ แสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความอัปยศในแง่ลบ แต่ฉันบอกได้เลยว่า Bella Dolls อยู่ที่นั่นเพื่อตอบสนอง ความ ต้องการของ ลูกค้า จำนวนมาก ”เขากล่าวกับ Global News นี่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ความคิดเรื่องซ่องโสเภณีเซ็กซ์ดอลล์ผุดขึ้นในแคนาดาใน ปี นี้ดู:หุ่นยนต์ทางเพศสามารถ ส่งผล ดีต่อการแต่งงานได้หรือไม่?
